ภาคเหนือเป็นภูมิภาคมีความเสี่ยงต่อการเกิดดินโคลนถล่มและเกิดแผ่นดินไหว อาจทาให้เกิดการสูญหายและเสียชีวิตของบุคคล อีกทั้งเหตุการณ์ดังกล่าวยังทาให้ยากต่อการระบุตัวตนของผู้เสียชีวิต ในการระบุตัวตนของผู้เสียชีวิตนั้นจะต้องอาศัยข้อมูลเบื้องต้น เช่น เพศ อายุ ส่วนสูง ซึ่งการระบุตัวตนของผู้เสียชีวิตด้วยการแยกเพศนับว่าเป็นขั้นตอนเริ่มต้นที่มีความสาคัญ ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะใช้วิธีการวัดจากซากโครงกระดูกที่พบ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีง่าย ไม่ซับซ้อนประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย และยังให้ความแม่นยาในการแยกเพศที่ค่อนข้างสูง ในงานวิจัยครั้งนี้ทาการทดสอบความสามารถในการแยกเพศของซากกะโหลกศีรษะมนุษย์ส่วน foramen magnum จากกระดูกมนุษย์ของประชากรประเทศไทยที่มีภูมิลาเนาอยู่ภาคเหนือ จานวนทั้งสิ้น 200โครง แบ่งเป็น ชาย100โครง อายุอยู่ระหว่าง 22-94 ปี และเพศหญิงจานวน 100 โครง อายุอยู่ระหว่าง 20-91 ปี โดยได้รับซากกะโหลกศีรษะมนุษย์ส่วน foramen magnum มาจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทาการวัด ทั้งสิ้น 5 ตัวแปร ได้แก่ foramen magnum length, foramen magnum breadth, occipital condyle length, occipital condyle breadth ,minimum intercondylar distance โดยใช้ digital vernier caliper ในการวัด วิเคราะห์โดยใช้สถิติ stepwise discriminant analysis 2 วิธี จากสถิติ univariate stepwise discriminant analysis วิเคราะห์ความสามารถในการแยกเพศของตัวแปรแต่ละตัวแปรพบว่า ตัวแปรทั้งหมดมีความสามารถในการแยกเพศอยู่ระหว่าง 59.0%-88.0% และจากสถิติ multivariate stepwise discriminant analysis เลือกตัวแปรที่ดีที่สุดเพื่อนามาสร้างสมการในการแยกเพศ พบว่า สมการที่สร้างมีความสามารถในการแยกเพศอยู่ที่ 93.0% จากผลการศึกษาครั้งนี้ทาให้ทราบถึงศักยภาพในการนาซากกะโหลกศีรษะมนุษย์ส่วน foramen magnum มาประยุกต์ใช้ในงานทางด้านนิติวิทยาศาสตร์และมานุษยวิทยาเพื่อแยกเพศในกลุ่มประชากรไทยภาคเหนือได้
The northern part of Thailand is at risk for natural disaster may cause lost and died of person also such event making it difficult to identifying. Identity of the deceased will require basic information such as gender, age and height in which identifying. Identity of the deceased by sex identification considered as an important starting step which is usually used to measure from skeletal remains which is an easy way not complicated save time save money and still provide a high accuracy in sex identification. The aim of this research was to test of the ability to sex identification from foramen magnum in Northern-Thai population. A sample of 200 individuals (100 males and 100 females) of known age and sex, kindly supplied by Department of Anatomy, Faculty of Medicine, Chiang Mai University, Thailand, was examined. The age of the individuals ranged between 20-94 years old. Using 5 variables to measure by a digital vernier caliper. This study were analyzed by dicriminant function. Univariate measurements produced accuracy levels that ranged from 59.0% -88.0%. Classification accuracy ranged from 93.0% in the multivariate stepwise discriminant analysis. This study as a result make known the potential in bringing the foramen magnum applied in the field of forensic science and anthropology in order to sex identification in the northern Thai population